National Innovation Awards Winners

ผลงานที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ

Back
National Innovation Award 2565

รางวัลเกียรติคุณ ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประเภท องค์กรภาคเอกชนขนาดกลาง (Medium) ประจำปี 2565

โครงการนวัตกรรม
บริษัท จิตตะ ดอท คอม จำกัด
ผู้เสนอผลงาน
Jitta Dot Com Co., Ltd.
อีเมล
@jittawealth [LINE Official]
เว็บไซต์
www.jitta.com
ความเป็นนวัตกรรม

บริษัท จิตตะ ดอท คอม จำกัด หรือ Jitta ก่อตั้งเมื่อปี 2555 ผู้พัฒนาระบบวิเคราะห์หุ้นโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกหุ้นดีในราคาที่เหมาะสม โดย Jitta ให้ข้อมูลงบการเงินย้อนหลังนานถึง 10 ปี มาวิเคราะห์และจัดลำดับ Jitta Ranking พิสูจน์ผลตอบแทนระยะยาวที่สามารถชนะดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกได้ Jitta สามารถวิเคราะห์ข้อมูลมากกว่า 788 ล้านดาต้าพอยต์ทุกวัน ครอบคลุม 95% ของมาร์เก็ตแคปหุ้นทั่วโลกใน 26 ประเทศ

บริษัทกำหนดกลยุทธ์ทางนวัตกรรม คือ การพัฒนาแพลตฟอร์ม WealthTech ด้วยปัญญาประดิษฐ์และระบบลงทุนอัตโนมัติ ทำให้การลงทุนเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและสร้างผลตอบแทนทบต้นอย่างยั่งยืน โดยนำ OKRs (Objective and Key Results) มาวัดผลเป้าหมายของบริษัท ทำให้นวัตกรรม WealthTech ด้วยหลักการที่ถูกต้อง สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับนักลงทุนไทยและทั่วโลก มาตลอด 1 ทศวรรษ นอกจากนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับเสียงของนักลงทุน เน้นการพัฒนาบริการที่ตอบโจทย์ Pain Point หลายๆ ด้าน โดยต่อมาได้มีการจัดตั้งบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน Jitta Wealth เป็นบริษัทลูก นำเทคโนโลยีมาบริหารความมั่งคั่ง เพื่อนักลงทุนทุกคนเข้าถึงการลงทุนและบรรลุเป้าหมายด้านการเงินในระยะยาว ด้วยวิธีการที่ง่ายกว่าเดิม กองทุนส่วนบุคคลครอบคลุมสินทรัพย์คุณภาพดี จัดพอร์ตลงทุนอย่างมีหลักการ และใช้เทคโนโลยีลงทุนอัตโนมัติอย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อให้มีค่าธรรมเนียมต่ำและสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า โดยปัจจุบัน Jitta Wealth ครองส่วนแบ่งตลาดจัดการกองทุนส่วนบุคคลของไทยมากกว่า 70%

การพัฒนานวัตกรรม WealthTech ของบริษัทนั้นถือเป็นจุดแข็งที่สร้างความสำเร็จให้ Jitta เนื่องจากทีมงานผู้บริหารมีประสบการณ์ตรงทางด้านการอ่านงบการเงิน ประเมินคุณภาพกิจการ และลงทุนหุ้นมาก่อน ได้มีการขยับขยายทีมผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านเข้ามาร่วมพัฒนา WealthTech เพื่อช่วยนักลงทุนทั่วโลก และการดำเนินการตามเป้าหมาย OKRs ของบริษัท เช่น เสริมทีมผู้จัดการกองทุน พัฒนาพอร์ตลงทุนใหม่ๆ สร้างทีมงานใหม่เพื่อขยายธุรกิจ และยังให้ความสำคัญกับการพัฒนา Touch Point ต่างๆ ของลูกค้า อาทิ ระบบ E-KYC (การยืนยันตัวตนทางดิจิทัล) ระบบ E-Signature ระบบ Chatbot CRM เป็นต้น